การใช้งานระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในด้านการเขียนโปรแกรม ก็สามารถสร้างเว็บไซต์ ได้ด้วยตนเอง เพราะ CMS มีโปรแกรมประยุกต์ ที่พร้อมใช้งานอยู่มากมาย ระบบจัดการเนื้อหา แต่ละแบบก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นจึงต้องลองพิจารณาดูก่อนเป็นอันดับเเรก ว่าเว็บไซต์ของเรานั้นมีจุดประสงค์อะไร ยกตัวอย่างเช่น หากเว็บไซต์ของคุณนำเสนอเกี่ยวกับข่าว และบทความ การเลือกใช้ WordPress ก็อาจเหมาะสมมากกว่า เเต่ถ้าหากเว็บไซต์ของคุณเน้นการขายของออนไลน์ และมีสินค้าจำนวนไม่มาก WooCommerce ของ WordPress ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่หากคุณมีสินค้าจำนวนมาก การใช้ OpenCart หรือ Magento ที่เป็นระบบ E-Commerce โดยตรงก็จะตอบโจทย์มากกว่า ดังนั้นในบทความนี้ เราจะเน้นที่ระบบจัดการเนื้อหาที่ดีที่สุด ที่เหมาะกับการใช้งาน
ระบบจัดการเนื้อหา CMS ที่ได้รับความนิยมในปี 2022
1. WordPress
CMS ที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยเป็นอย่างดี WordPress เปิดตัวในปี 2546 เป็นซอฟแวร์หลัก ใช้จัดการเว็บไซต์ เนื้อหาและบทความต่างๆ เขียนด้วยภาษา PHP และใช้ระบบจัดการฐานข้อมูล MySQL จึงมีเครื่องมือในการสร้างเว็บไซต์หรือบล็อกที่มีคุณสมบัติครบถ้วน เช่น การเพิ่มเนื้อหา วิดีโอ รูปภาพ และอื่นๆ ที่เป็นลายลักษณ์อักษร คุณยังสามารถติดตั้งธีมซึ่งเป็นส่วนที่กำหนดดีไซน์หรือรูปแบบการแสดงผล และ Plugin ที่เป็นการช่วยเพิ่มความสามารถให้กับ WordPress เช่น ระบบสร้างหน้าเว็บไซต์ ระบบจัดการสินค้า
2. Squarespace
Squarespace เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์ม CMS เปิดตัวออกมาในเวลาที่ใกล้เคียงกับ WordPress แต่ Squarespace มีข้อแตกต่างจาก WordPress คือ Squarespace ไม่ใช่โอเพ่นซอร์ส ดังนั้น คุณอาจจำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อดาวน์โหลดซอฟต์แวร์และติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ แต่ จุดเด่นของ Squarespace คือ เครื่องมือและฟีเจอร์ต่างๆ ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและเน้นให้เราสามารถปรับแต่งหน้าตาเว็บไซต์ให้สวยงาม จึงเหมาะสำหรับการสร้างเว็บไซต์เป็น Portfolio เก็บผลงาน หรือเป็นเว็บธุรกิจที่เน้นงานภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์ ช่างแต่งหน้า รูปภาพ วิดีโอ ฯลฯ หน้าตาหลังบ้านสำหรับดูแลเว็บไซต์ก็ใช้งานง่ายเช่นเดียวกัน
3. Magnolia
หัวใจหลักของระบบจัดการเนื้อหาก็คือมันจะต้องติดตั้งและใช้งานได้ง่าย ดังนั้น หากคุณกำลังทำธุรกิจและต้องการเว็บไซต์เพื่อโปรโมทสินค้าและบริการของคุณ แต่คุณอาจไม่มีความรู้ด้านเทคนิคในการสร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเอง Magnolia จึงเป็นแพลตฟอร์ม CMS ที่จะมาตอบโจทย์คุณ เพราะคุณสมบัติที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ เช่น อีคอมเมิร์ซ การวิเคราะห์การตลาด โซเชียลมีเดีย ระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ และ ระบบบริหารจัดการทรัพยากรภายในองค์กร เป็นต้น
Magnolia มีคุณลักษณะที่โดดเด่นที่สุดคือมุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัยระดับสูง เพื่อช่วยป้องกันการโจมตี คุณยังสามารถกำหนดสิ่งที่ผู้ใช้และผู้ดูแลระบบสามารถทำได้ คุณจะรู้ได้เสมอว่าใครสามารถเขียน แก้ไข ดู และเผยแพร่เนื้อหาได้
4. Weebly
Weebly เป็นระบบจัดการเนื้อหาที่คล้ายกับ WordPress เป็นระบบจัดการเนื้อหาที่ใช้งานง่ายซึ่งช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์อย่างง่ายได้ภายในไม่กี่นาที แพลตฟอร์มนี้ใช้รูปแบบการลากแล้ววาง ดังนั้นคุณจึงสามารถเพิ่มองค์ประกอบต่างๆ และสื่อในเว็บไซต์ของคุณได้อย่างง่ายดาย
5. Wix
Wix ก่อตั้งขึ้นในปี 2006 ซึ่งในปัจจุบันได้ให้บริการแก่ผู้ใช้มากกว่า 110 ล้านคนและเป็นยักษ์ใหญ่รายหนึ่งในวงการนี้ Wix เป็นระบบจัดการเนื้อหาสำหรับทำเว็บไซต์ที่ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านเทคนิคมากนัก และสามารถปรับเว็บไซต์ให้เหมาะกับมือถือได้อย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีฟีเจอร์พิเศษและเครื่องมือทางการตลาดที่เข้ามาช่วยเพิ่มมูลค่าได้อย่างยอดเยี่ยม นี่คือสิ่งที่ช่วยให้คุณสามารถผลักดันให้เว็บไซต์ของตัวเองไปถึงคนได้มากขึ้นโดยไม่ต้องใช้ความรู้ด้านเทคนิคมากนักรวมถึงทรัพยากรเสริมมากเกินไป ซึ่ง wix มีทั้งแบบฟรีหรือแบบเสียเงิน โดยแบบฟรีนั้นจะไม่สามารถเปลี่ยนชื่อโดเมนได้ หากเป็นแบบเสียเงินสามารถเปลี่ยนชื่อโดเมนได้หรือเป็นโดนเมนที่คุณเคยมีก็ได้